วลาดิมีร์ อุลยานอฟ เลนิน (3)

          
             ขณะเดียวกันในสมัชชานี้ก็ได้เผยให้เห็นแนวสองแนวภายในพรรค แนวหนึ่งเป็นแนวปฏิวัติ ที่เลนินและตัวแทนผู้สนับสนุน ซึ่งได้รับเสียงข้างมากในการเลือกตั้งองค์กรนำของพรรคและได้เป็นที่เรียกกันว่าพรรคบอลเชวิค อีกแนวหนึ่งคือแนวฉวยโอกาส(เมนเชวิค) มี มาร์ตอฟ , เปลคานอฟ , แดน , โปเตรซฮฟ และคนอื่นๆเป็นหัวหน้า

            และแล้วการปฏิวัติของประชาชนซึ่งจะต้องมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้ระเบิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1905 ในนครเซ็นต์ปีเตอร์บูร์ก ซึ่งต่อมาเป็นที่ขนานนามกันว่า วันอาทิตย์นองเลือด การเดินขบวนอย่างสงบของกรรมกรโรงงานถูกกองทหารของพระเจ้าซาร์ระดมยิง เหตุการครั้งนั้นได้ทำให้เกิดความตื่นตะลึงทั่วประเทศ เป็นเหตุให้เริ่มเกิดความวุ่นวายในเชิงปฏิวัติขึ้นในประเทศเป็นเวลา 2 ปี

            เลนินเชื่อว่ามีแต่การลุกฮือด้วยอาวุธของประชากรทั่วทั้งประเทศเท่านั้น ที่จะสามารถโค่นล้มระบบซาร์ลงได้ และบดขยี้การต้านทานของกลไกตำรวจ-ข้าราชการของรัฐบาลระบบซาร์

            เวลาแต่ละเดือนที่ผ่านไปในปี 1905 การปฏิวัติในรัสเซียก็ยิ่งทวีจังหวะสูงขึ้น ตกปลายปี การต่อสู้ทางชนชั้นได้ขึ้นถึงขั้นแหลมคม การนัดหยุดงานทางการเมืองทั่วประเทศเดือนตุลาคม ทำให้พระเจ้าซาร์จำต้องออกคำประกาศอย่างมือถือสากปากถือศีล ให้มีเสรีภาพทางการเมืองบางประการและการตั้งองค์รัฐสภาขึ้นมา มีหน้าที่ทางปฏิบัติ คือ สภาดูม่า

            แม้ว่าการปฏิวัติรัสเซียครั้งแรกจะล้มเหลว แต่มันก็ทรงความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างใหญ่หลวง เพราะมันได้เป็นโรงเรียนสอนชนชั้นกรรมมาชีพ และมวลมหาชนให้เรียนรู้การต่อสู้ทางชนชั้น ต่อมาเลนินได้เรียกการการปฏิวัตินั้น การซ้อมใหญ่ครบเครื่องของการปฏิวติเดือนตุลาคม 1917


          หลังจากต้านทานการห้ำหั่นของการปฏิวัติมาได้ ลัทธิซาร์ก็เริ่มล้างแค้น บรรดานักปฏิวัติโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบอลเชวิค คนนับร้อยๆถูกประหารชีวิต นับพันๆถูกขังคุกหรือเนรเทศ หรือถูกตัดสินจำคุกให้ทำงานหนัก เลนินจำเป็นต้องเตลิดออกนอกรัสเซีย ในเดือนธันวาคม 1907 เป็นการเริ่มการอพยพลี้ภัยเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งกินเวลานานเกือบปี หลังจากอยู่ในสวิตเซอร์และด์เกือบ 1 ปี


            พวกเมนเชวิคแตกตื่นตกใจและร้องขึ้นว่า พวกมันไม่ควรจับอาวุธ พวกเขาได้พยายามปรับตัวให้เข้ากับระบบซาร์โดยการขจัดพรรคชนกรรมาชีพปฏิวัติออกไป แล้วแทนที่ด้วยองค์การที่ถูกกฎหมายซึ่งโดยแท้แล้วก็ไม่ใช่พรรค

            สงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งได้นำความทุกข์ยากสุดพรรณนาได้มาสู่ประชาชน ได้ทำให้ความขัดแย้งต่างๆของลัทธิจักรวรรดินิยมรุนแรงอย่างที่สุด การปฏิวัติฝ่ายประชาธิปไตยนายทุนที่ได้เกิดขึ้นในรัสเซียเดือนกุมภาพันธ์ 1917 ได้โค่นล้มพระเจ้าซาร์ลงไป และได้กลายเป็นการเปิดฉากให้แก่มหาปฏิวัติสังคมนิยมเดือนตุลาคม


(มีต่อ)

วลาดิมีร์ อุลยานอฟ เลนิน (2)

           ที่นั่น เลนินได้พบกับนักปฏิวัติคนอื่นๆที่ถูกเนรเทศไปเช่นกัน ได้ติดต่อผู้คนและได้เข้าไปอ่านและเขียนหนังสือในห้องสมุดของพ่อค้าผู้รักหนังสือคนหนึ่งชื่อยูดิน นับว่าเป็นที่เก็บรวบรวมหนังสือชั้นเยี่ยมต่างๆอย่างครบถ้วน และเลนินได้พ้นโทษจากการเนรเทศในเดือนมกราคม 1900 ��ได้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้อีก


            ความสำคัญอย่างยิ่งในการก่อตัวทางโลกทัศน์แบบมาร์กซ์ของเลนินก็คือในช่วงระยะเวลา4ปีที่เลนินอยู่ในเมืองซามาราซึ่งครอบครัวอุลยานอฟได้ย้ายไปอยู่ที่นั้นในปี 1889 และย้ายไปอยู่ใกล้หมู่บ้าน อลาคาเยฟคา ในฤดูใบไม้ผลิคือต้นไป 1890 เลนินได้รับอนุญาตให้เข้าสอบไล่ปริญญากฎหมายได้ที่มหาวิทยาลัยปีเตอร์สบูร์ก


            ในเดือนสิงหาคม 1893 เลนินได้ย้ายไปอยู่ในนครเซ็นต์ปีเตอร์สบูร์ก  ภารกิจสำคัญที่เลนินกำหนดให้กับตนเองในตอนนี้ก็คือการนำเอาความคิดของลัทธิสังคมนิยมวิทยาศาสตร์ไปสู่ชนชั้นกรรมาชีพ ติดอาวุธกรรมกรด้วยปรัชญาลัทธิมาร์กซ์ อันทรงฤทธานุภาพรอบตัว และสร้างองค์กรของนักปฏิวัติขึ้น ที่สามารถนำมวลชนและนำพวกเขาในการโจมตีลัทธิซาร์ และที่สุดก็ลัทธินายทุน



            ในระยะปีแรกๆของศตวรรษที่ 20 การต่อสู้ทางชนชั้นขนาดใหญ่ได้ระเบิดขึ้นในรัสเซีย ซึ่งทำให้ชนกรรมาชีพขึ้นมาอยู่ในกองหน้าของขบวนการชนชั้นกรรมกรสากลทันที ทำให้รัสเซียกลายเป็นจุดสำคัญของการปฏิวัติโลกขึ้นมาทันที จึงทำให้เป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการจัดตั้งพรรคของชนชั้นกรรมกรขึ้นมา

            เลนินได้พยายามจัดตั้งพรรคในแบบใหม่ขึ้น อันเป็นพรรคที่จะแตกต่างไปจากบรรดาพรรคสังคมประชาธิปไตยในยุโรปตะวันตกซึ่งยอมกับลัทธิฉวยโอกาสและซึ่งเนื่องจากการนี้ก็ค่อยๆกลายเป็นนักปฏิรูปมากขึ้นทุกที
            กลางปี 1900 เลนินได้เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ ในเจนีวาท่านได้ปรึกษาหารือกับเปลคานอฟ และสมาชิกคนอื่นๆของกลุ่ม การปลดปล่อยแรงงาน ถึงการเริ่มต้นพิมพ์หนังสือของชนชั้นกรรมกรทั่วรัสเซียขึ้น แม้จะยากเย็นที่สุด ในเรื่องการร่วมพิมพ์หนังสือพิมพ์ อิสครา ซึ่งอิสคราได้พิมพ์ออกไปในเมืองไลป์ซิก และมิวนิค และต่อมาก็ในลอนดอนเจนีวา

            อิสครา ได้ปฏิบัติภารกิจของมันอย่างเป็นผลสำเร็จ มันได้เปิดโปงลัทธิฉวยโอกาสและระดมกำลังนักปฏิวัติทั้งหลายเข้ามารอบๆเลนิน

            สมัชชาครั้งที่ 2 ของ พ..... ได้รวบรวมองค์การชาวมาร์กซ์เข้าด้วยกัน และได้จัดตั้งพรรคของกรรมกรขึ้นบนพื้นฐานของหลักการทางลัทธิการเมืองและการจัดตั้งที่เลนินได้เป็นผู้วางไว้

(มีต่อ)

วลาดิมีร์ อุลยานอฟ เลนิน (1)

            เลนิน เป็นนามแฝงซึ่ง วลาดิมีร์ อุลยานอฟ นักปฏิวัติชาวมาร์กซ์ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อการรักษาความลับในข้อเขียนที่ได้เขียนขึ้น และด้วยนามนี้เองที่ทำให้เลนินได้กลายมาเป็นผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐโซเวียต และในฐานะผู้นำของชนชั้นกรรมาชีพในโลก

            วลาดิมีร์ อิลลิช อุลยานอฟ (เลนิน) เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ.1870 ในเมืองซิมบีร์สก์ เป็นที่ที่เลนินใช้ชีวิตในวัยเด็กและวัยหนุ่ม อันเป็นช่วงระยะแห่งการก่อตัวหล่อหลอมท่านให้กลายเป็นนักปฏิวัติและนักคิดผู้ยิ่งใหญ่

         แม้ตั้งแต่วัยรุ่น เลนินสามารถมองเห็นลักษณะปฏิกิริยาของระบบการเมืองและสังคมรัสเซีย สมัยซาร์ จากการสังเกตของตัวเอง บวกกับเรื่องที่พ่อนำมาเล่าให้ฟังภายหลังจากได้ไปดูงานที่หมู่บ้านหนึ่งใดมา และภาพที่น่าเศร้าสลดใจของความทุกข์ ความลำเค็ญของชาวนาและคนงานที่ยากคนข้นแค้นโง่เง่า ซึ่งถูกขูดรีตอย่างไรปราณีจากชนชั้นนายทุนและเจ้าของที่ดิน และข้าราชการของพระเจ้าซาร์ ได้ทำให้เลนินตลอดจนพี่ชายและน้องสาวเกิดความรู้สึกประท้วงคัดค้านความไม่เสมอภาคทางสังคมและเชื้อชาติและปฏิญาณที่จะอุทิศชีวิตของพวกเขาในการปลดปล่อยประชาชนผู้งานให้เป็นไท

            ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของเลนินขาดสบั้นลงเมื่อท่านถูกคัดชื่ออก ถูกจับขังคุกในฐานเข้าร่วมกิจกรรมปฏิวัติของนักศึกษาในเดือนธันวาคม 1887

            ในปลายปี 1888 เลนินได้รับอนุญาตให้กลับมาที่เมืองคาซานได้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้อีก

            ความสำคัญอย่างยิ่งในการก่อตัวทางโลกทัศน์แบบมาร์กซ์ของเลนินก็คือในช่วงระยะเวลา4ปีที่เลนินอยู่ในเมืองซามาราซึ่งครอบครัวอุลยานอฟได้ย้ายไปอยู่ที่นั้นในปี 1889 และย้ายไปอยู่ใกล้หมู่บ้าน อลาคาเยฟคา ในฤดูใบไม้ผลิคือต้นไป 1890 เลนินได้รับอนุญาตให้เข้าสอบไล่ปริญญากฎหมายได้ที่มหาวิทยาลัยปีเตอร์สบูร์ก

            ในเดือนสิงหาคม 1893 เลนินได้ย้ายไปอยู่ในนครเซ็นต์ปีเตอร์สบูร์ก   ภารกิจสำคัญที่เลนินกำหนดให้กับตนเองในตอนนี้ก็คือการนำเอาความคิดของลัทธิสังคมนิยมวิทยาศาสตร์ไปสู่ชนชั้นกรรมาชีพ ติดอาวุธกรรมกรด้วยปรัชญาลัทธิมาร์กซ์ อันทรงฤทธานุภาพรอบตัว และสร้างองค์กรของนักปฏิวัติขึ้น ที่สามารถนำมวลชนและนำพวกเขาในการโจมตีลัทธิซาร์ และสิ้นสุดลัทธินายทุน ในตอนนั้นมีนักศึกษากลุ่มลัทธิมาร์กซ์เคลื่อนไหวกันอยู่หลายกลุ่มในเมืองหลวงรัสเซีย กลุ่มเหล่านั้นประกอบด้วยกรรมกรโรงงานและนักศึกษามหาวิทยาลัย

         เลนินได้ตั้ง “สันนิบาตแห่งการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยชนชั้นกรรมกร  ขึ้น ซึ่งพอตกปลายปี 1895 ได้กลายเป็นองค์การนำของสังคมประชาธิปไตยในเมืองหลวงของรัสเซีย นับเป็นครั้งแรกในรัสเซียที่ได้มีการก่อตั้งองค์การซึ่งสมานลัทธิสังคมวิทยาศาสตร์กับการเคลื่อนไหวของชนชั้นกรรมกรเข้าด้วยกัน ต่อมาก็ได้มีการจัดตั้ง สันนิบาต ทำนองเดียวกันนี้ขึ้นในที่อื่นๆของประเทศ

            ตำรวจได้เฝ้าจับตาดูสันนิบาตของเลนินอยู่แล้ว ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 9 ธันวาคม 1895 ก็ได้ยกกำลังบุกเข้าจับเลนินและสมาชิกชั้นนำคนอื่นๆของสันนิบาต

           ในเดือนกุมภาพันธ์ 1897 เจ้าหน้าที่ได้ประกาศคำตัดสินออกมา คือ เลนินและสมาชิกของสันนิบาตคนอื่นๆที่ถูกจับ ให้เนรเทศไปอยู่ไซบีเรียตะวันออกกลางเป็นเวลา 3 ปี
            

(มีต่อ)

ความหมาย ประชาชน ประชากร พลเมือง

ประชาชน
               
ประชาชน หมายถึงคนของประเทศ เช่น ประชาชนทุกคนมีหน้าที่ต้องรู้กฎหมาย ใครจะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่ได้ คำว่า ประชาชน ในบางครั้ง อาจหมายถึงผู้ที่ไม่ใช่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือนักบวช และในบางครั้งหมายถึงผู้ที่มิได้เป็นพ่อค้าด้วย   

ประชากร
                ประชากร หมายถึง คนโดยทั่วไป แต่มักใช้ในกรณีที่จะพิจารณาถึงจำนวน คือจำนวนคนของประเทศหรือของโลก ในทางสถิติ มีการใช้คำว่า ประชากร หมายถึงจำนวนของสัตว์ หรือสิ่งที่สำรวจที่พิจารณาด้วย 

พลเมือง
                พลเมือง หมายถึง หมู่คนที่เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง คนทั้งหมดซึ่งเป็นกำลังของประเทศ ทั้งในทางเศรษฐกิจ การทหาร และอำนาจต่อรองกับประเทศอื่น โดยนัยของความหมาย คำว่า พลเมือง หมายถึง คนที่สนับสนุนเป็นกำลังอำนาจของผู้ปกครอง เป็นคนที่อยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ปกครอง



ที่มา sakulthai

powered by Blogger | WordPress by Newwpthemes | Converted by BloggerTheme